Grey Spinning Heart Within A Heart

หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

Present Perfect

  



สรุปวิธีการใช้ ❝ Present Perfect ❞

ถ้าหากอยากเก่งภาษาอังกฤษ แกรมม่าพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม และควรฝึกใช้ให้แม่น นั่นก็คือเรื่อง Tense ค่ะ ในภาษาอังกฤษใช้ Tenseในการพูดถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้รู้ว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน หรือในอนาคต 


ซึ่ง Tense ก็มีด้วยกันถึง 12 Tense เลยทีเดียว แต่วันนี้ Globish จะมาพูดถึง Present Perfect Tense ที่มักจะได้ใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ

Present Perfect คือ Tense ที่มักใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และเพิ่งจบลงในปัจจุบัน แต่จริง ๆ แล้ว Present Perfect สามารถนำมาใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์เลยค่ะ

ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดู Tense อื่น ๆ ได้ที่นี่ คลิก


▸ สรุปวิธีการใช้ Present Continuous


▸ สรุปวิธีการใช้ Past Continuous


▸ สรุปวิธีการใช้ Past Simple

▸ สรุปวิธีการใช้ Past Perfect


▸ สรุปวิธีการใช้ Future SImple


 


แต่ก่อนอื่นเลย เราไปดูโครงสร้างของ Present Perfect กันก่อนดีกว่า ว่า Present Perfect สามารถใช้ได้กับประโยคแบบไหนบ้าง


 




 


Present Perfect ใช้เมื่อไหร่ดี?


 


1. ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงถึงปัจจุบัน มักใช้กับคำเหล่านี้


since ตั้งแต่ (+ จุดเริ่มต้นของเวลา เช่น 2021, January, Tuesday)


for เป็นเวลา (+ ระยะเวลา เช่น 2 months, 5 days, 1 year)


ever since ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


so far จนกระทั่งตอนนี้


up to now จนกระทั่งตอนนี้


up to the present จนถึงปัจจุบัน


 


เช่น


I have lived in Bangkok since 1991. 


ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 1991


 


I have worked in this company for 3 months.


ผมทำงานในบริษัทนี้มา 3 เดือนแล้ว


 


A: What have you done so far with your project?


ตอนนี้คุณทำโปรเจคนี้ถึงไหนแล้ว


B: So far, I’ve completed writing the report and making a list of customers.


ตอนนี้ผมเขียนรายงานและทำรายชื่อลูกค้าเสร็จแล้ว


 


He was elected in 2000 and has been president ever since. 


เขาได้รับเลือกในปี 2000 และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีตั้งแต่นั้น


 


I started smoking last year, and have coughed ever since.


ฉันเริ่มสูบบุหรี่ปีที่แล้ว และมีอาการไอตั้งแต่นั้น





2. ใช้บอกว่าเคยหรือไม่เคยทำ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มักใช้กับคำเหล่านี้


never ไม่เคย


ever เคย


once ครั้งหนึ่ง


twice สองครั้ง


 


เช่น


A: Have you ever been to Tokyo?


คุณเคยไปโตเกียวไหม


B: No, I haven’t been to Tokyo.


ไม่นะ ฉันไม่เคยไปโตเกียว


 


I have never been to Thailand.


ฉันไม่เคยไปเมืองไทย


 


Tips: เคยไปหรือไม่เคยไปที่ไหน ให้ใช้ been แทน gone เพราะ


been หมายถึง ไปแล้ว กลับมาแล้ว


gone หมายถึง ไปแล้ว แต่ยังไม่กลับมา


เช่น 


She has just gone to the bank. She’ll back in about 10 minutes 


เธอเพิ่งออกไปแบงค์ จะกลับมาในอักประมาณ 10 นาที





3. ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงใหม่ๆ มักใช้กับคำเหล่านี้


already เพิ่งจะ


recently เมื่อไม่นานมานี้


just เรียบร้อยแล้ว


yet ยัง (มักใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธ)


 


เช่น


I have just come back to Japan.


ฉันเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น


 


The bus has already arrived.


รถเมล์มาถึงแล้ว


 


A: Has he finished the work yet?


เขาทำงานเสร็จรึยัง


B: Not yet


ยังเลย





4. ใช้กับเหตุการณ์ที่จบไปแล้ว แต่ผู้พูดยังคงรู้สึกถึงผลของเหตุการณ์นั้นอยู่


 


เช่น


He has finished that work. 


เขาทำงานนั้นเสร็จแล้ว (เพิ่งทำเสร็จ ยังไม่ได้ส่ง)


 


We have just cleaned our classroom. 


(เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ห้องยังสะอาดกิ้งอยู่เลย)





5. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และอาจเกิดขึ้นต่อเนื่อง มักใช้กับคำกำกับเวลาเหล่านี้


today วันนี้


this week อาทิตย์นี้


this month เดือนนี้


this year ปีนี้


 


เช่น


The teacher has drunk two cups of coffee today.  


วันนี้ครูคนนั้นได้ดื่มกาแฟไปแล้ว 2 แก้ว


(นักเรียนจะเห็นครูของเขาทุกครั้งที่ดื่มกาแฟในแต่ละวัน และตอนที่นักเรียนเห็นครูกำลังดื่มกาแฟแก้วที่ 2 อยู่แล้ว แต่ครูอาจจะดื่มแก้วที่ 3 หรือ 4 อีก หลังจากนั้น)


 


My father has washed his car three times this month. 


พ่อของฉันล้างรถไปแล้ว 3 ครั้งแล้วเดือนนี้


(อาจจะล้างรถครั้งที่ 4-5 อีกในเดือนนี้)


 


The teacher has not seen Ananda this week. 


คุณครูยังไม่เจออนันดาเลยในสัปดาห์นี้


(สัปดาห์นี้ครูอาจจะไม่เจออนันดาเลย)


 


 


Present Perfect กับ Past Simple ต่างกันอย่างไร


 


1. Past Simple ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดและจบลงในอดีต แต่ Present Perfect ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอดีต แต่ยังทำต่อเนื่องหรือส่งผลมาถึงปัจจุบัน


 


เช่น


Present Perfect:


She hasn’t called me.


เธอยังไม่ได้โทรหาฉัน (แต่ตอนนี้ยังรอให้โทรมาอยู่)


Past Simple:


She didn’t call me.


เธอไม่ได้โทรหา (แค่เล่าเฉย ๆ ว่าไม่ได้โทรมา แต่ไม่ได้รอแล้ว)


2. Present Perfect จะเน้นผลของการกระทำมากกว่า Past Simple

เช่น


What have you done? (Present Perfect)


คุณทำอะไรลงไป


 


What did you do? (Past Simple)


คุณทำอะไรไปแล้ว

Present Perfect

   สรุปวิธีการใช้ ❝ Present Perfect ❞ ถ้าหากอยากเก่งภาษาอังกฤษ แกรมม่าพื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม และควรฝึกใช้ให้แม่น นั่นก็คือเรื่อง Tense ค่ะ...